วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

                                            ตลาดน้ำดำเนินสะดวก                
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่ง ท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อมบรรทุกสินค้าที่ี จำเป็น ต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายแลก เปลี่ยนสินค้า ในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ปัจจุบันได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่าง ประเทศเข้ามา เที่ยวชมวิถีชีวิต และการค้าขายในตลาดน้ำแห่งแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
เป็นตลาด เก่าแก่นับร้อยปี ซึ่งได้ขุดคลองดำเนินสะดวกขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงเห็นว่าการคมนาคม ในท้องถิ่นนี้ไม่มีถนนที่เชื่อมกับอำเภออื่นๆ ส่วนมากใช้เรือเป็นพาหนะ โดยคลองนี้จะ เชื่อมแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง เข้าไว้ด้วยกัน ใช้เวลาขุดประมาณ 2 ปี ที่มาของชื่อคลองได้รับพระราชทาน จากรัชกาลที่ 5

ตลาดน้ำดำเนิน
    ในอดีตตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นศูนย์รวมในการค้าขาย พืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลจากเรือกสวนไร่นาของ เกษตรกรใน ย่านนั้น แต่ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นกึ่งตลาดบกตลาดน้ำ คือ มีของขายทั้งบนบกและในเรือ มา เที่ยวที่ตลาดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะมีทางเดินที่มีหลังคาตลอดสองฝั่งของตลาด จึงทำให้เดินเที่ยวชม ตลาดได้ อย่างสบาย ๆ คลองนี้ เป็นคลองที่คนใน จ. ราชบุรี จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม ไปมาหาสู่กัน มีความหมาย ตรงกับชื่อ “ดำเนินสะดวก” คือ การเดินทางสะดวก แม้ทุกวันนี้ จุดประสงค์เริ่มแรกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังมี พ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยว เดินทางไปอย่างล้นหลาม ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวก จึงเปรียบเสมือน เป็นที่นัดของเรือร้อยๆลำเพื่อชุมนุมขายสินค้าการเกษตร และสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองตลอดจนร้านขายของ ที่รับจากโรงงานในกรุงเทพหรือจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้วคลองที่เต็มไป ด้วยสินค้าทุกชนิดที่เขาตื่นตาตื่นราคาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ี่ีเดียวตลาดน้ำ จะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่ 6.00 น.ไป จน ถึงประมาณ 11.00 น. นอกจากเขาจะได้ชมตลาดน้ำแล้วชีวิตสองฝั่ง คลองของชาวไทย ชนบทยังเป็นภาพที่ น่ามองอย่างมากสลับกับเรือกสวนและไร่นาของชาวบ้านส่วนใหญ่ของพื้นที่ี่แถบนี้ต่าง จากภาพ ที่เขาคุ้นตาตาม เมืองใหญ่ๆ ไปลิบลับ
ตลาดน้ำดำเนินตลาดน้ำดำเนิน


1. เดินชมตลาดน้ำ เลือกซื้อ เลือกชิม อาหารและสิ้นค้าต่างที่พ่อค้าแม่ค้า พายเรือมาขาย
หากเดินบนบกก็จะได้ชมสินค้าอย่างหนึ่ง จะได้เลือกซื้อสินค้าในคลองได้ง่ายขึ้น สินค้าที่นำมาขายส่วนมากจะ เป็นผลไม้ เช่น กล้วย ส้มโอ ชมพู่ ลำไย มะม่วง ฯลฯ สนนราคาก็ไม่แพง เพราะมาจากชาวสวนโดยตรง ของกินมี ก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งมีให้เลือกหลายเจ้า นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองจำหน่ายด้วย เช่น ผ้าพันคอ เสื้อผ้าสำเร็จรูปผ้าไหม หมวกงอบใบลาน เป็นต้น และยังจะได้ชมเรือกนาไร่สวนของชาวบ้านแถบนี้อีกด้วย
ตลาดน้ำดำเนิน
ตลาดน้ำดำเนิน
2.นั่งเรือชมบรรยากาศ หรือจะเลือกชิมอาหารกันบนเรือ
นอกจากเดินเที่ยวชมกันบนบกแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเรือชมตลาดน้ำได้ สามารถติดต่อเรือได้ตลอด สองฝั่งทางเข้าตลาดน้ำดำเนินสะดวก ซึ่งที่ท่าเรือจะมีบริการที่จอดรถให้พร้อม ราคาเรือเหมาลำละ 600 บาท นั่งได้ 6-8 คน ใช้เวลา ประมาณ 45 นาที
ตลาดน้ำดำเนินตลาดน้ำดำเนิน
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
- เปิดทุกวัน เวลา 07.00-12.00 น.
- เรือพาย 400 บาท/8 คน
- เรือหางยาว 600บาท/8 คน
- ค่าจอดรถ 20 บาท/คัน (ที่เอกชน)



1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
- เดินทางไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม เลย กิโลเมตรที่ 83 ไปเล็กน้อย จะพบแยกบางแพ เลี้ยวซ้ายมือไปตามทางหลวงหมายเลข 325 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ข้ามสะพานธนะรัชต์เลยไป 200 เมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร- เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ระยะทาง 63 กิโลเมตรเลี้ยวขวาเข้าทางหลวง หมายเลข 325 ผ่านตัวเมือง สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 325 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร ทางเข้า ตลาดน้ำอยู่ก่อนถึง สะพานธนะรัชต์ 200 เมตร และแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร
2. โดยรถสาธารณะ
มีรถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวก ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี เที่ยวแรก ออกตั้งแต่เวลา 05.00 นาฬิกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ลงรถบริเวณตลาดเชิงสะพานธนะรัชต์ จากนั้น สามารถ โดยสารรถสองแถวบริเวณตลาดเชิงสะพานธนะรัชต์ เข้าไปถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นระยะทางอีก
1 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถานีขนส่งสายใต้ (ห้องจำหน่ายตั๋วดำเนินสะดวก) โทร. 0-2435-5031 (ห้องจำหน่ายตั๋วราชบุรี) โทร. 0-2435-5036 นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกับรถโดยสารสายอื่น ได้ เช่น สายกรุงเทพฯ-ราชบุรี, กรุง
ประวัตตลาดน้ำดำเนินสะดวก

อำเภอดำเนินสะดวก ในสมัยก่อนเป็นที่ราบลุ่ม มีป่าดงไผ่ และต้นเสือหมอบ ไม่มีคลองมากมายเหมือนเช่นในปัจจุบัน มีคลองธรรมชาติ เช่น คลองบางป่า คลองแพงพวย คลองสี่หมื่น คลองบางพัง คลองบางนกแขวก ซึ่งแต่เดิมเป็นทางเกวียนและระแทะ  (เกวียนสำหรับนั่งขนาดเล็กชนิดหนึ่งเพื่อให้ไปได้เร็ว , เกวียนเล็กที่ใช้เทียมด้วยโค) มีน้ำไหลผ่านเฉพาะในฤดูน้ำหลาก เมื่อถึงฤดูแล้งจะไม่มีน้ำเลย การคมนาคมส่วนใหญ่เดินด้วยเท้า หรือใช้พาหนะ เช่น ช้าง ม้า ทางน้ำใช้เรือพาย เรือแจว เรือใบ เรือสำเภา ในสมัยนั้น การเดินทางติดต่อกันทางเรือมีความสำคัญมาก จะเห็นได้ว่าที่ทำการของรัฐ เช่น ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอ ฯลฯ จะสร้างอยู่ริมทะเลหรือริมคลองเป็นส่วนใหญ่ การคมนาคมทางเรือระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดราชบุรี ในสมัยนั้น จะล่องมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าคลองดาวคะนอง ไปออกจังหวัดสมุทรสาคร แล้วเข้าคลองสุนัขหอนไปออกแม่น้ำแม่กลองที่จังหวัดสมุทรสงคราม ขึ้นไปถึงจังหวัดราชบุรี
พระบาทมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระราชดำริ เมื่อปี พ.ศ.2409 (ร.ศ. 89 ปีขาล อัฐศก ร.ศ.85 จ.ศ.1228) เห็นว่าการคมนาคมที่ไปมาระหว่างกรุงเทพฯ สมุทรสาครมีคลองภาษีเจริญที่ทำการสัญจรไปมาได้สะดวกดี แต่ถ้ามีคลองระหว่างกรุงเทพฯ สมุทรสงคราม และราชบุรีก็จะสะดวกขึ้นอีกเป็นอันมาก โดยที่อาศัยแม่น้ำแม่กลองเป็นสื่อกลางเมื่อเป็นคลองได้ การไปมาหาสู่ โดยทางน้ำก็จะมีความสามารถและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ในปี พ.ศ.2409 นั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ที่พระสมุหกลาโหม เมื่อครั้งยังพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระปราสาทสิทธิ์ เป็นผู้อำนวยการขุดคลองที่เชื่อมจากแม่น้ำท่าจีนเริ่มจากปากคลองบางยาง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กับแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีสมเด็จพระยาบรมหมาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้ควบคุมดูแล และใช้กำลังของทหาร ข้าราชการ ประชาชน ตลอดจนชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยใหม่ๆ ร่วมกันขุด การขุดดินนี้ใช้กำลังแรงงานของคนล้วนๆ โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องทุ่นแรงอย่างอื่นเลย คนจีนสมัยนั้นส่วนมากจะไว้ผมเปีย มาเป็นผู้รับจ้างขุด หากเป็นเดือนหงาย กลางคืนจะทำการขุดดินกันทั้งคืน เมื่อทำงานกลางคืนจะนุ่งเพียงผ้าเตี่ยวผืนเดียว ขุดดินใส่ปุ้งกี๋แล้วก็หาบดินหรือแบกดินนั้น เอาดินไปทิ้งนอกเขตที่ต้องการ กลางคืนอากาศดี ไม่ร้อน ทำงานได้ดีตลอดทั้งคืนแล้วมาพักผ่อนตอตนกลางวัน เอาแรงไว้ทำงานตอนกลางคืนต่อไป
คลองดำเนินสะดวก นี้เมื่อทำการขุดเสร็จแล้ว เดิมมีความยาวมากถึง 35 กิโลเมตร เมื่อแรกขุดนั้นกว้างประมาณ 6 วา และลึก 6 ศอก แต่นานเข้าตลิ่งถูกน้ำพัดผ่านกัดเซาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากแรงกระทบของคลื่นเรือยนต์ประเภทต่างๆ เป็นเหตุให้คลองขุดขยายกว้างขึ้นเป็น 10 วาบ้าง 15 วาบ้าง และบางแห่งกว้างถึง 20 วาก็มี ด้วยขนาดและความยาวของคลองที่ขุด ประกอบกับเป็นคลองที่สะดวกในการเดินทางตัดตรงไปหลายพื้นที่ ทำให้มีเจ้านายผู้ใหญ่หลายคนมาจับจองที่ดินซึ่งเป็นป่ารก ดงอ้อ ดงแขมพร้อมขุดคลองน้อย คลองซอยแยกจากคลองใหญ่เพื่อเข้าสู่พื้นที่ของตน ป่าพงแขมเหล่านั้นจึงได้มีการปรับเปลี่ยนกลายเป็นเรือกสวนไร่นา ต่อมากลายเป็นผลผลิตหลักของของชาวดำเนินสะดวก ในการทำมาหาเลี้ยงชีพ และเป็นสินค้าหลักที่สำคัญของตลาดน้ำแห่งนี้ เขตคลองดำเนินสะดวก มีระยะคลองที่ยาวมาก เป็นคลองที่ตรงไม่เหมืนคลองอื่นๆ ที่คดเคี้ยวไปมา เป็นคลองที่ผ่านเขตถึง 3 อำเภอใน 3 จังหวัด คืออำเภอบ้านแพ้ว อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอบางคนที ตลอดคลอง 35 กิโลเมตร เรียกว่าคลองดำเนินสะดวก ทั้งคลองโดยแบ่งระยะด้วยการปักหลักเขตตลอดทั้งคลองมีจำนวน 8 หลักเป็นระยะดังนี้ คือ หลักศูนย์เริ่มต้นที่ปากคลองบางยางสู่แม่น้ำท่าจีน อ.กระทุ่มแบน ต.สมุทรสาคร ห่างจากประตูน้ำบางยางประมาณ 1 ก.ม. เศษ ประตูน้ำบางยางไปจนถึงหลักที่หนึ่ง ระยะทางได้ 4 ก.ม. มีเสาหินสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 10 x 10 นิ้ว ปักไว้ที่พื้นดิน การเรียกชื่อสถานที่นี้คือ ระหว่างหลักศูนย์ ถึง หลักหนึ่ง ไม่มีใครเรียกกันว่า หลักศูนย์ นิยมเรียกว่า ประตูน้ำบางยาง หรือก็ว่า ปากคลองบางยาง ซึ่งอยู่ในเขต อ.กระทุ่มแบน และ อ.บ้านแพ้ว หลักที่สอง จากเสาหลักที่หนึ่ง ระยะทางน้ำยาวได้ 100 เส้น มีเสาหินเลขที่ 2 ปักไว้ เรียกว่า หลักสอง อยู่ในเขต อ.บ้างแพ้ว หลักที่สาม หลักที่สี่ ระยะทุกหลักมีระยะทางน้ำยาว 100 เส้น และมีเสาหินปักไว้1 ต้น แต่ละหลักจะสลักและเขียนสีแดงเป็น 3 ภาษา คือ เลขไทย โรมัน จีน หลักที่ห้า ระยะทางน้ำและทุกหลักอยู่ในเขต อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาครและ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลักที่หก หลักที่เจ็ด และในต้นเขตหลักเจ็ดนี้มีวัดหลักหกรัตนาราม ตำบลศรีสุราษฎร์ ในเขตหลักเจ็ดที่เรียกเป็นหลักหกนี้มีระยะสั้นประมาณ 50 เส้น คือตอนต้นของหลักเจ็ดและตอนปลายหลักเจ็ด ก็มีเรียกกันว่าหลักเจ็ด เป็นส่วนน้อยไม่ค่อยเรียกกัน อยู่ในเขต อ.ดำเนินสะดวก หลักที่แปด การเรียกระยะหลักต่างๆ ที่ผ่านมา รู้สึกว่าเขต หลักแปด ตอนปลายของหลัก จะเรียกชื่อกันว่า หลักแปด ก็ตอนปลายของหลัก 8 ที่มีระยะประมาณ 50 เส้น ตอนต้นไม่ค่อยเรียกกัน ซึ่งมีเขต อ.ดำเนินสะดวก ติดต่อกับ เขต ต.บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
งบประมารในการขุดคลองดำเนินสะดวก
งบประมาณในการขุดคลองดำเนินสะดวก ใช้เวลาขุดคลองในระยะ 2 ปีเศษ ขุดคลองตั้งแต่ พ.ศ.2409 ปีขาล ใช้งบประมาณ 1,400 ชั่ง เป็นเงิน 112,000 บาท โดยเป็นเงินของ
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จำนวน 400 ชั่ง
- สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ที่พระสมุหกลาโหม จำนวน 1,000 ชั่ง
ถ้าเทียบเป็นเงินจากสมัยก่อน ต้องเอา 300 คูณ จะเป็นเงินได้ 33,600,000 บาท เงินในสมัยนี้มีค่ามาก ค่าแรงงานของผู้ชายวันละ 1 บาท ข้าวสารถังละ .60 สตางค์ ผ้าขาวม้าผืนละ .40 สตางค์
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อม บรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเริ่มค้าขายตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ 12.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอำเภอดำเนินสะดวก โทร. 0 3224 1023, 0 3234 6161 หรือ www.damnoensaduak.com

ล่องคลองชมตลาดน้ำดำเนินสะดวก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีบริการเรือเช่านำเที่ยว เรือพาย ราคา 300 บาท เรือหางยาว ราคา 600 บาท นั่งได้ประมาณ 8 คน พาไปดูสวน การทำน้ำตาลสด ใช้เวลาประมาณ 45 นาที สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ท่าเรือยุวันดา โทร. 0 3224 1392, 0 6668 9471, 0 9161 0909

การเดินทาง
1. เดินทางไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม เลยกิโลเมตรที่ 83 ไปเล็กน้อย จะพบแยกบางแพ เลี้ยวซ้ายมือไปตามทางหลวงหมายเลข 325 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ข้ามสะพานธนะรัชต์เลยไป 200 เมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร

2. เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ระยะทาง 63 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 325 ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 325 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร ทางเข้าตลาดน้ำอยู่ก่อนถึงสะพานธนะรัชต์ 200 เมตร และแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร

แผนที่ | พยากรณ์อากาศราชบุรี | ความคิดเห็นบนเฟสบุค | ที่พัก








Gallery รูปภาพ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก


ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
สะพานข้ามคลองดำเนินสะดวก เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ระยะทาง 63 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 325 ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 325 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร ทางเข้าตลาดน้ำอยู่ก่อนถึงสะพานธนะรัชต์ 200 เมตร และแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร เรื่อยๆ เข้ามาจะเจอสะพานข้ามคลองดำเนินสะดวก จากนั้นจะมีลานจอดรถของท่าเรือยุวันดา ที่จริงกว่าจะเข้ามาถึงตรงนี้จะผ่านท่าเรือต่างๆ มากมายหลายท่า มีทั้งซ้ายและขวาจะเลือกเที่ยวท่าไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่ที่เราเลือกท่ายุวันดาเพราะต้องการวิวบริเวณสะพานดำเนินสะดวกซึ่งเป็นมุมนิยมมุมหนึ่งของที่นี่ บนสะพานแห่งนี้มีจารึกเรื่องราวประวัติศาสตร์การเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ไว้ด้วย

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก มุมที่ถ่ายจากบนสะพานรูปนี้น่าจะมีอยู่ในเว็บท่องเที่ยวทุกเว็บหรือบล็อคท่องเที่ยวดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรีแทบทุกบล็อคเลยก็ว่าได้ สภาพการจราจรทางน้ำของเรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวจำนวนมากจะเริ่มติดขัดในเวลาก่อนเที่ยงเล็กน้อย หากเดินทางไปเช้ากว่านั้นบรรยากาศจะค่อนข้างเงียบเหงาเหมือนอยู่กันคนละที่ ลานจอดรถของท่าเรือยุวันดาแม้ว่าจะรองรับรถได้จำนวนมากแต่ก็เต็มทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ค่าจอดรถ 10 บาทแต่ก็คุ้ม

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
วิวนิยมตลาดน้ำดำเนินสะดวก ภาพนี้คงไม่ต้องบรรยายมาก ไม่ว่าใครไปก็ต้องถ่ายกันทั้งนั้นไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติ

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
เริ่มเดินทางเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก เมื่อเก็บภาพบนสะพานกันจนป็นที่พอใจแล้วต่อไปคือการติดต่อเรือเพื่อล่องชมวิถีชีวิตชาวบ้านดำเนินสะดวก ราคาเรือก็มีตั้งแต่ 400 บาทนั่งได้ 4-6 คน หรือเรือใหญ่กว่านั้นก็มีบริการขึ้นอยู่กับจำนวนคนในกลุ่มของเรา ก่อนที่จะลงเรือก็เดินไปหาข้าวกินกันก่อนก็ได้ข้ามสะพานไม้ท่าเรือไปมีร้านอาหาร ม้านั่งเรียงรายจำนวนมากสั่งจากในเรือมากินก็ได้ นักท่องเที่ยวที่มากินข้าวที่นี่กันก็มีจำนวนมากมายบางทีอาจจะต้องมีการยืนรอม้านั่งว่าง

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ล่องเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก เมื่ออิ่มหนำกันแล้วก็รอเรือที่เราติดต่อไว้มารับปกติจะจอดเรียงกันอยู่หลายลำแต่วันไหนมีนักท่องเที่ยวมากก็จะต้องรอหน่อยเพราะเรือออกไปหมดแล้ว แต่ไม่นานเรือเหล่านั้นก็จะทยอยกันเข้ามาจอด สำหรับราคา 400 บาทจะล่องเรือได้ครึ่งชั่วโมงเรียกกันให้เข้าใจง่ายว่ารอบเล็ก แต่ถ้าต้องการบรรยากาศแบบเต็มอิ่มแบบว่าไม่ค่อยได้มาบ่อยๆ ควรเลือกรอบใหญ่ 1 ชั่วโมงจะได้ไปได้หลายที่หน่อย เพราะรอบเล็กจะได้เห็นสวนตาลบังเละและการเคี่ยวน้ำตาลตามแบบฉบับดั้งเดิมเท่านั้น

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
บรรกาศการล่องเรือและสินค้าในดำเนินสะดวก ออกเดินทางไปเรื่อยๆ ตามสายน้ำคลองดำเนินสะดวก มีสินค้ามากมายทั้งในเรือที่แล่นสวนไป และบนฝั่งให้เลือก บรรยากาศการเที่ยวมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ จากชาวต่างชาติด้วยความประทับใจ
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
แม่ค้าตลาดน้ำดำเนินสะดวก แน่นอนว่าการไปเที่ยวตลาดน้ำสำหรับคนชอบถ่ายภาพก็ต้องมีการเก็บภาพแม่ค้ามากันบ้างไม่มากก็น้อย หลายคนที่ชอบถ่ายภาพมากจริงๆ ถึงกับไปนั่งรอถ่ายภาพแม่ค้าอย่างเดียวเลยก็มี สำหรับเรื่องช่องแสงก็ศึกษากันไปครับจะรอจังหวะที่แสงตกลงบนแม่ค้าพอดีก็ว่ากันไป แม่ค้าที่นี่ใจดียิ้มให้ถ่ายรูปกันหลายคน สำหรับคนใส่เสื้อสีชมพูภาพล่างขวารู้สึกว่ามาทีไรก็เจอแกทุกทีเลย ใส่เสื้อสีเดิมทุกครั้งที่เจอกัน

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
วิถีชีวิตชาวดำเนินสะดวก สำหรับเส้นทางล่องเรือนี้เป็นคลองย่อยสายเล็กๆ เข้าไปในหมู่บ้านที่เรียกกันว่าที่ตาบอด เพราะเข้าทางรถไม่ได้เลยต้องใช้เรือเท่านั้นแต่รู้สึกว่าล่องเรือรอบเล็กครึ่งชั่วโมงจะไม่ได้ผ่านมาในคลองสายนี้นะครับ ในนี้ก็จะมีข้าวเกรียบว่าว ย่างกันร้อนๆ ขายกันสดๆ กินอร่อย มีก๋วยเตี๋ยวเรือที่ตรงทางแยกของคลองด้วยกินไปก่อนแล้วค่อยเอาชามมาคืนตอนขากลับออกไปก็ได้ ชาวบ้านบางคนก็เอามะพร้าวกะทิจากสวนมาวางขายริมคลอง

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
บรรยากาศล่องเรือดำเนินสะดวก บางช่วงของการล่องเรือก็ไม่มีผู้คนหรือเรือหนาแน่น เพราะเริ่มเข้าในบ้านคนห่างจากตลาดน้ำออกมามากขึ้นๆ สภาพธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของที่นี่น่าอยู่มากๆ

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
สวนตาลบังเละ สถานที่จำหน่ายของที่ระลึกและน้ำตาลมะพร้าวที่เคี่ยวกันแบบเห็นๆ แถมยังให้นักท่องเที่ยวได้ลองเคี่ยวกันดูเพื่อให้รู้ว่ามันยากขนาดไหนกว่าจะได้น้ำตาลมา 1 ก้อน

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
บรรยากาศในร้านของฝาก สำหรับการล่องเรือรอบเล็กครึ่งชั่วโมงจะมาจอดให้เราเดินชมสินค้ารวมทั้งลองชิมน้ำตาล และลองเคี่ยวได้ด้วย ประมาณ 15 นาทีแล้วก็พายกลับไปยังท่ายุวันดาเหมือนเดิม สินค้าที่นี่มีให้เลือกมากมายมีโปสการ์ดตลาดน้ำดำเนินสะดวกสวยๆ ให้เลือกด้วย

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ชอบเรือลำนี้มากๆ ถึงแม้ว่าจะเก็บได้ไม่หมดทั้งลำด้วยช่วงเลนส์ไม่อำนวยแต่ก็ได้ภาพที่ผมชอบแหละนะ

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ล่องเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวกขากลับ ได้เวลาที่กำหนดแล้วเรือที่เรานั่งมาก็จะเข้ามาเทียบท่าให้เราขึ้นเพื่อเดินทางกลับไปยังท่าที่เรามา บรรยากาศตอนขากลับก็พอเก็บได้ไปเรื่อยๆ การจราจรทางน้ำก็ยังคงหนาแน่นติดขัดอยู่เหมือนเดิม

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
สมาชิกบนเรือดำเนินสะดวก เดินทางกลับมายังท่ายุวันดาโดยสวัสดิภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใสประทับใจในการเดินทางเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
เก็บภาพช่วงสุดท้าย หากยังถ่ายภาพไม่หนำใจในตอนขาไป ขากลับลงจากเรือมาก็เดินอีกรอบก็ได้ สำหรับท่ายุวันดามีร้านกาแฟสดอยู่ร้านนึงน่าตาน่ารักน่ากินมาก ภาพกาแ
            ตลาดเก่าดั้งเดิม ตั้งอยู่บริเวณปากคลองลัดพลี ต.ดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เป็นตลาดเก่าอายุยาวนานเกือบ 150 ปี ที่วันนี้ยังคงมีเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวน่าหาโอกาสมาสัมผัสเหลือเกิน

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก หรือตลาดน้ำปากคลองลัดพลี เป็นตลาดลอยน้ำแห่งแรกในประเทศไทย ที่เมื่อประมาณพ.ศ.2510 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้นำวิถีชีวิตชาวคลองอันงดงามเก่าแก่กว่า 140 ปี เผยแพร่สู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก จนเป็นที่รู้จัก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครๆ ก็อยากมาสัมผัส ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋วและชาวจีนไหหลำ เป็นชาวสวนทำการค้าขายตามลำคลอง และแม้จะอยู่กันคนละฝั่งคลองแต่เรื่องการดำเนินชีวิตชาวบ้านที่นี่ก็อยู่กันด้วยสายสัมพันธ์ที่ดี เรียกว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีเสน่ห์มาก

เพราะชาวตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักทั้งสองฝั่งคลองช่วยกันอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ และวิถีชาวคลองดั้งเดิมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวไว้ได้เป็นอย่างดี
แต่ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ตลาดเหล่าตั๊กลัก ดูซบเซาลงถนัดตา นายปัญญา พันธ์ศิริพัฒน์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ดำเนิน สะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี คนเก่าแก่ที่อาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ตลาดน้ำปากคลองลัดพลีดูหงอยเหงาลง เพราะความเจริญของการคมนาคม ถนนหนทางเข้ามาแทนที่เรือ การเชื่อมต่อระหว่างคลองต่างๆ เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกขึ้น เขาก็เลือกไปท่องเที่ยวคลองอื่นที่มีถนนตัดผ่านสะดวกกว่า
ประกอบกับความเจริญทางเศรษฐกิจ วิถีของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป จะคงเหลือแต่คนรุ่นเก่าที่ยังคงประกอบอาชีพอยู่ที่นี่ นักท่องเที่ยวที่เคยเข้ามาเที่ยวที่นี่ จนทำให้ที่นี่เคยคึกคัก เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนไป พ่อค้าแม่ค้าที่เคยพายเรือนำของจากสวนมาขาย ก็ย้ายไปขายในคลองอีกฝั่งที่มีถนนตัดผ่านสะดวกสบายกว่า บรรยากาศการค้าขายและท่องเที่ยวที่นี่ก็เลยดูเหงาๆ ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงฟื้นบรรยา กาศตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

บริเวณทางเดินริมน้ำและบนเรือ มีแม่ค้าพ่อค้าจำหน่ายขายของทั้งข้าวแห้งโบราณชื่อดัง หมูสะเต๊ะเลิศรสริมน้ำ ขนมจีนน้ำยาแกงไก่สูตรเหล่าตั๊กลัก ส้มตำทอด ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดง ผัดไทยอาม่า ก๋วยจั๊บน้ำพะโล้สูตรโบราณ หรือของหวานอย่าง ไอศกรีมกะทิโบราณ น้ำเต้าหู้ รวมทั้งผลไม้มากมาย เช่น ฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ กระท้อน ส้มโอ กล้วย ฯลฯ
ยังไม่นับบรรยากาศเก่าแก่ของบ้านเรือน ชุมชนที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก และนี่คือ "ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก" ต้นตำนานตลาดน้ำของเมืองไทย!!
การเดินทางโดยรถประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวก ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ เที่ยวแรกเวลา 05.00 น. ถึงปากทางเข้า ตลาดน้ำดำเนินสะดวกใช้เวลา เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น สามารถโดยสารรถสองแถวเข้าไปถึง ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก เป็นระยะทางอีก 1 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียด ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วสถานีขนส่งสายใต้ โทร. 0-2434-7192, 0-2435-5605
นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดิน ทางไปกับรถโดยสารสายอื่นได้ เช่น สาย กรุงเทพฯ-ราชบุรี, กรุงเทพฯ-เพชรบุรี (สายเก่า) แล้วลงตรงสี่แยกบางแพ ต่อจากนั้นต่อรถสองแถวซึ่งวิ่งระหว่างทางแยกบางแพไปดำเนินสะดวก มีรถออกทุก 10 นาที
หรือสามารถโทรสอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่บ้านปลาทับทิมแม่กลองรีสอร์ท โทร 080-7888748 , 080-7888749 ส่วนนี้เป็นภาพบรรยากาศการตักบาตรในยามเช้า ๐๗.๓๐ ซึ่งจะมีเป็นประจำทุกเช้าเสาร์ - อาทิตย์ สำหรับผู้ที่ต้องการมาใส่บาตรควรมาค้างตั้งแต่คืนวันศกร์ควรติดต่อที่พักได้ที่วิสาหกิจชุมชน คุณสุวรรณ เบอร์ ๐๘๒ ๓๖๔ ๕๗๓๓ หรือคุณแก้ว ๐๘๗ ๕๒๘ ๓๑๓๓
โดยตลาดน้ำแห่งนี้เป็นตลาดน้ำของชุมชนชาวจีนที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยขุดคลองดำเนินสะดวดเมื่อ ๑๔๐ ปีก่อน สองฝั่งคลองจึงมีเรือนชาวจีนแต้จิ๋ว ไหหลำ ฮกเกี้ยน แคระ อาศัยและค้าขายสินค้าต่าง ๆ โดยมีชาวบ้านในคลองทั้งคลองพายเรือมาค้าขายสินค้าพื้นเมือง
ภาพบรรยากาศการเปิดตลาดน้ำครับ

มีวงเหล่าโก๊วร่วมเป็นสีสันในพิธีเปิดด้วย

ภาพพิพิธภัณฑ์


ภาพบนคือบริเวณชั้น ๒ ของศาลาแดงที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เรือตลาดน้ำ เพื่อเก็บของใช้เก่า ๆ โดยชาวจีนที่อยู่ในแถบนั้นบริจาคสิ่งของให้ (วันนี้ของยังไม่มากนะครับ)

เรือกอนโดล่าในเมืองไทย มีไว้บริการนักท่องเที่ยว พาเข้าไปในคลองลัดพลีเพื่อดูวิถีชีวิตไทย ๆ

ตลาดน้ำปากคลองลัดพลี ที่เริ่มคึกคัก

เรือของชาวบ้านที่ขายสินค้าต่าง ๆ เริ่มพายเข้ามาสมทบ ซึ่งคาดว่าเสาร์-อาทิตย์หน้าจะมีมากกว่านี้แน่
 
                               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น